Android 4.1 Jelly Bean มีอะไรใหม่ ? คืออะไร

ความสามารถใหม่ๆ พร้อมหน้าตาใหม่ ของ Jelly Bean นั้นทาง Google ยกเครื่องใหม่ไม่ว่าจะเป็นNotification ที่ติดตั้งอยู่ใน Widget ระบบแจ้งเตื่อน ปรับปรุงระบบถ่ายภาพใหม่ทำให้รีวิวภาพได้ไหลลื่นกว่าเดือน เพิ่มความสะดวกในการพิพม์ข้อความด้วยคีย์บอร์ดแบบใหม่ และ Google Now ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดแสดงสถานที่กินเทียว ให้ครบ เราไปดูฟีเจอร์ทั้งหมด พร้อมหน้าตา JB กันครับ

Feature Android 4.1 JB

Widgets : มีการจัดการ Widgets แบบใหม่การโยกย้ายไอคอน การจัดวางได้ตามใจชอบ


APP Camera : มีการจัดการแอพพลิเคชั่นในเรื่องของการถ่ายภาพ ให้มีการใช้งานที่ง่ายยิ่งขึ้น รวมไปถึงการตกแต่งภาพ ตัด ย่อ ขยาย ได้ไหลลื่น รวดเร็วกว่า ICS เยอะ



New Keyboard : ฟีเจอร์คีย์บอร์ดแบบใหม่บน Android 4.1 มีการเรียงตัวใหม่ เพิ่มการเดาคำศัพท์ที่ต้องการให้เราอัตโนมัติ และตัวช่วยในการพิพม์


Voice Search : เพิ่มระบบค้นหาด้วยเสียง โดยออกคำสั่งโดยตรง JB จะสามารถค้นหาอะไรก็ได้ตามต้องการบน Google และที่ส่วนที่เจ๋งที่สุดก็คือ รองรับเสียงภาษาไทย และไม่ต้องเชื่อมต่อ internet ในการใช้งานฟีเจอร์นี้เหมือน Siri อีกด้วย


Google Now : ใหม่ล่าสุดกับฟีเจอร์ที่จะบอกให้เราทราบถึงสถานที่ ที่น่าสนใจ พร้อมข้อมูลจราจร ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวหน้าสนใจ รถทัวร์ เครื่องบิน และอีกหลายต่อหลายอย่าง


http://www.itallnews.com

Android 4.0 Ice Cream Sandwich มีฟีเจอร์อะไรใหม่มาดูกัน

       หลังจาก Google ได้ทำการปิดตัวระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ หรือ ระบบปฏิบัติการ Android 4.0 Ice Cream Sandwich ซึ่งเปิดตัวพร้อมกับคู่ปรับตัวเก่งของ Apple คือSamsung Galaxy Nexus หรือชื่อโค้ดเนมเดิมว่าNexus  Prime ที่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรก ที่ประเดิมใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich โดย Google ได้ทำการเตรียมการไว้ให้ใช้ได้กับสมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต และระบบปฏิบัติการ Android 4.0 Ice Cream Sandwich ยังเป็นแบบ Open source เพื่อให้นักพัฒนาได้ทำการต่อยอดได้อีกด้วย เอาละครับเอาไปดูกันครับว่ามีฟีเจอร์อะไรใหม่เพิ่มเข้ามา

USER INTERFACE : Ice Cream Sandwich

  UI บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich เป็นการผสมระหว่างระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 Gingerbread และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 Honeycomb ครับ แต่กลิ่นอายของระบบปฏิบัติการ Android 4.0 Ice Cream Sandwich  หน้าจอตอนปลดล็อครวมไปถึงปุ่ม 3 ปุ่มอย่าง ปุ่ม Back, Home และ Multitasking นอกจากนี้ หน้า Homescreen นั้น ยังสามารถสร้างโฟลเดอร์ รวมแอพพลิเคชั่นให้เป็นหมวดหมู่ได้ 

NOTIFICATION : Ice Cream Sandwich

 

   การใช้งานเป็นแบบ Dropdown เหมือนเดิม แต่ภาพรวมของ Notification นั้น ถูกปรับปรุงให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม (ใช้งานง่ายขึ้น) และสามารถดูในส่วนของ Notification ได้จากหน้า Lock Screen ได้ทันที เช่นเดียวกับหมวดกล้องถ่ายรูป โดยไม่ต้องทำการปลดล็อคเหมือนแต่ก่อน

 

   มาในส่วนของ Virtual Keyboard ได้มีการแก้ไขในเรื่องของการสะกดคำ และการแก้ไขคำให้ถูกต้องได้เป็นอย่างดี และหน้าของ Visual Multitasking สามารถเรียกใช้ Application ที่ถูกเปิดใช้งานก่อนหน้า ได้จากกดปุ่มนี้เพียงปุ่มเดียว

 

   สิ่งที่น่าสนใจของ Android 4.0 Ice Cream Sandwich คือแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า New People ครับ โดยมาใช้แทน Contact แบบเดิม ซึ่งมี UI ที่น่าใช้และแสดงรายชื่อของผู้ติดต่อได้อย่างชัดเจน  และยังมี Gmail ที่ได้เพิ่มฟังก์ชั่นSwipe gestures เข้ามา และได้เพิ่มความรวดเร็วในการใช้งาน โดยการ pop-up รายชื่อผู้ติดต่อมาให้เลือก และลดเวลาในการพิพม์ได้เป็นอย่างดีครั้ง

สั่งการด้วยเสียง ( Apple มี Siri ) Android ก็มีเหมือนกัน

DATA USAGE & FACE UNLOCK : Ice Cream Sandwich
Review Android 4.0 Ice Cream Sandwich

 

   Data Usage เป็นตัวช่วยควบคุมการใช้งานของเครื่อง ไม่ให้มีการใช้งานเกินลิมิต และ Face Unlock  โดยทำการสแกนใบหน้าเจ้าของเครื่องเพื่อนทำการ Unlock เครื่อง

ANDROID BEAM : Ice Cream Sandwich
Review Android 4.0 Ice Cream Sandwich

   และสุดยอดฟรีเจอร์ที่มีชื่อว่า Android Beam โดยเป็นการเชื่อต่อกับเทคโนโลยี NFC ซึ่งเป็นแชร์ข้อมูลระหว่างเครื่องที่มีระบบ NFC ด้วยกัน โดยการนำเครื่องมาวางใกล้ๆ กัน แล้ว Beam นั่นเอง

http://sirirat201.blogspot.com/2012/12/android-40-ice-cream-sandwich_9.html

Android Honeycomb 3.1 มีดียังไง

       ในช่วงเวลาที่ผ่านมาการเติบโตของระบบปฏิบัติการ Android ถือได้ว่าก้าวเข้ามาทำตลาดในแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว แต่เนื่องด้วยความหลากหลายของผู้ผลิตแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนในปัจจุบันทำให้เวอร์ชั่นล่าสุด Honeycomb 3.0 นั้นเกิดอาการโรคเลื่อนไปตามๆ กันสาเหตุหนึ่งมาจากระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb นั้นเดิมทีพัฒนาขึ้นมาเพื่อจะใช้กับขนาดหน้าจอ 10 นิ้วเป็นหลัก แต่หลายบริษัทได้พัฒนาขนาดหน้าจอ 7 นิ้วออกมาวางขายด้วย    เช่น Samsung Galaxy Tab, HTC Flyer และ Acer Iconia Tab A100 นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาความไม่เข้ากันของระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb และหน้าจอขนาด 7 นิ้ว จึงเกิดอาการโรคเลื่อนตามมา!!!

ส่วนรุ่นใหญ่ Motolora xoom เป็นรุ่นแรกที่ใช้ Android 3.0 Honeycomb สำหรับแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว และอีกรุ่นที่ได้ทดสอบกับ Honeycomb 3.1 ก็คือ Samsung Galaxy Tab 10.1 หลังจากที่ติดปัญหาความเสถียรภาพกับรุ่น Android 3.0

      เนื่องจากปัญหาความเสถียรภาพของ Android 3.0 Honeycomb จึงทำให้มีการพัฒนา Honeycomb 3.1 ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาและปรับปรุงระบบกันหลายอย่างเลยทีเดียว มาดูสิ่งที่ Honeycomb 3.1 ปรับปรุงอะไรกันไปบ้างได้เลยครับ

Honeycomb 3.1 รุ่นอัพเดตของ Android 3.0 Honeycomb ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามา

- ปรับปรุงการสลับแอพให้ดีขึ้น โดยรองรับแอพใน Recent Apps ไม่จำกัดจำนวน (เลื่อนขึ้นลงได้) ซึ่ง Android โฆษณาว่าเป็น true multi-tasking

- widget สามารถปรับขนาดได้แล้ว (ไม่ต้องลง home replacement อีกต่อไป!)
- Media Transfer Protocol (MTP) อ่านข้อมูลจากอุปกรณ์อื่นที่ต่อผ่าน USB ได้ เช่น ต่อเชื่อมกล้องถ่ายภาพกับแท็บเล็ต Android เพื่อดูรูปภาพได้โดยตรง
- รองรับอุปกรณ์หลายชนิดที่ต่อผ่าน USB ที่พูดถึงในงานคือ คีย์บอร์ด เมาส์ ทัชแพด จอยสติ๊ก (ในงานสาธิตต่อจอย Xbox เข้ากับแท็บเล็ต)
- โหมด USB Host เมื่อต่ออุปกรณ์ USB เข้ากับ Android แล้ว มันจะค้นหาแอพที่เหมาะสมกับการใช้งานอุปกรณ์ได้ ถ้าไม่เจอก็สามารถค้นหาจาก Market ได้

แอพอื่นๆ ที่มากับ Honeycomb ก็ได้รับการปรับปรุงดังนี้

- เบราว์เซอร์ – รองรับ CSS 3D, HTML5 video, ปุ่มควบคุมแบบ Quick Controls UI ที่เข้าถึงคำสั่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น (ภาพประกอบตามลิงก์), รองรับการใช้ฮาร์ดแวร์ช่วยเรนเดอร์เนื้อหา
- Gallery – รองรับ Picture Transfer Protocol (PTP)
- Calendar – ปรับ UI ให้สวยงามขึ้น
- Contacts – ค้นหาแบบ full text
- E-mail – ปรับวิธีการส่งเมลแบบ HTML ให้ดีขึ้น, ปรับการดึงเมลไม่ให้เปลืองแบตเตอรี่
รายละเอียดทั้งหมดดูใน Android Developers

ผู้ใช้แท็บเล็ต XOOM จะได้อัพเป็น 3.1 แล้ววันนี้ ส่วนแท็บเล็ตตัวอื่นยังต้องรอต่อไป กูเกิลยังพูดถึง Google TV สั้นๆ ว่าจะได้อัพเป็น 3.1 เช่นกัน และจะมี Android Market เวอร์ชันทีวีด้วย โดยจะมาช่วง “หน้าร้อน” ของสหรัฐ

http://jeo.object2cyber.com/?p=728